top of page

Local SEO คืออะไร? มีขั้นตอนการทำ Local SEO อย่างไรบ้าง

  • Writer: วีรยุทธ ชาญสุไชย
    วีรยุทธ ชาญสุไชย
  • Jul 26
  • 3 min read

Updated: Aug 2

การทำ Local SEO จะช่วยให้ร้านค้าปรากฏบน Google Map ที่อันดับแรก ๆ ได้ง่ายขึ้น

ธุรกิจขนาดเล็ก โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ มักจะมีปัญหาเรื่องสถานที่ตั้ง เพราะส่วนใหญ่การเช่าที่ในทำเลดี ๆ ก็มักจะมีค่าใช้จ่ายที่สูง ไม่ว่าจะจากราคาที่ดินที่เฟ้อเกินจริง หรือ เหตุผลอื่น ๆ ก็ตาม ทำให้การที่ลูกค้ารับรู้การมีอยู่ของร้านหรือธุรกิจโดยอัตโนมัติเป็นเรื่องยาก

แต่เมื่อทุกคนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และมีแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ให้ใช้งาน การเข้าถึงลูกค้าผ่านรูปแบบการ Search เช่น เมื่อมีคนใช้คำค้นหาว่า "ร้านกาแฟใกล้ฉัน" หรือ "ร้านซ่อมแอร์ในปากน้ำ" แล้วร้านของคุณปรากฏบน Google ผ่าน Google Map ก็ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ดีที่จะปิดการขายสินค้าหรือบริการได้

กระบวนการต่าง ๆ ในการทำให้ธุรกิจของคุณปรากฏบนแผนที่ Search Engine เราเรียกว่า Local SEO

  • Local SEO คือ กระบวนการเพิ่มการเข้าถึง/มองเห็นของ User เมื่อ User ทำการค้นหาธุรกิจหรือร้านค้าผ่านการ Search ที่มีการระบุพื้นที่เฉพาะ หรือ สถานที่รอบข้างผู้ Search เป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ

  • Local SEO เป็นซับเซ็ต SEO

  • การทำ Local SEO ถือเป็นเรื่องสำคัญเพราะนอกจาก Google จะเป็น Search Engine ที่มีระบบ Maps ที่ดีแล้ว ผู้คนทั่วโลกยังนิยมใช้ Google อีกด้วย


Google Business Profile (GBP) หัวใจสำคัญของ Local SEO


Google Business Profile เดิมชื่อ Google My Business เป็นเครื่องมือฟรีของ Google สำหรับให้เจ้าของกิจการหรือร้านค้าได้จัดการข้อมูลทางธุรกิจเพื่อให้ข้อมูลสำคัญปรากฏอยู่บน SERP (Search Engine result page หรือหน้าแสดงผลการค้นหา) และ Google Maps


ขั้นตอนการตั้งค่าและยืนยันตัวตนบน GBP


  • ไปที่ URL google.com/business

  • ใส่ชื่อธุรกิจและที่อยู๋

  • เลือกประเภทธุรกิจที่ตรงกับธุรกิจของคุณ ในที่นี่มี 3 หัวข้อ คือ

    • ค้าปลีกออนไลน์ (Online retail site)

    • ร้านค้าในพื้นที่

    • ธุรกิจบริการ (Local Store)


  • กรอกหรือเลือกหมวดหมู่ธุรกิจที่ตรงกับกิจการของคุณ เช่น ร้านอาหาร, สถาบันการศึกษา ฯลฯ

  • เลือกพื้นที่ที่ร้านหรือธุรกิจของคุณตั้งอยู่ (ไม่บังคับ) เช่น สีลม กรุงเทพฯ ประเทศไทย

  • กรอกเบอร์โทรศัพท์ และเว็บไซต์ของคุณ (หากมีเว็บไซต์ หรือ ช่องทางโซเชียลก็จะดีกว่า)

  • ใส่ประเทศ ที่อยู่ และรหัสไปรษณีย์

  • เลือกช่วงเวลา และวันทำการของธุรกิจ

  • เพิ่มคำอธิบาย (Description) ของธุรกิจ

  • อัปโหลดรูปภาพของธุรกิจ

  • จากนั้นระบบจะสอบถามเรื่องทำ Ads ให้ข้ามขั้นตอนนี้ไป


เมื่อทำการยืนยันข้อมูลธุรกิจเรียบร้อยแล้ว ข้อมูลธุรกิจของคุณก็จะปรากฏให้ User เห็น



การหาลูกค้าที่ตรงกลุ่ม ด้วย Keyword ที่สัมพันธ์กับพื้นที่ที่ร้านหรือธุรกิจตั้งอยู่ (Local Keyword)


  • ต้องเข้าใจ Keyword ที่สัมพันธ์กับพื้นที่ก่อน โดย Keyword ดังกล่าวก็คือคำที่คนใช้ค้นหาธุรกิจหรือร้านค้าในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง

  • วิธีหา Keyword ที่สัมพันธ์กับพื้นที่ที่ทำธุรกิจ

    • คิดในมุมผู้บริโภค ว่าถ้าจะหาร้าน หรือหาซื้ออะไรซักอย่าง เราจะใช้คำค้นหาว่าอะไร

    • อาจลองหาทั้งไทยและอังกฤษ เช่น "ร้านซ่อมรองเท้า อโศก" และ "Shoes repair in Asoke"

    • จากนั้นให้ผสม Keyword ตามรูปแบบนี้ [สินค้าหรือบริการของคุณ] + [ชื่อพื้นที่ เขต ย่าน]

  • วิธีที่ง่ายที่สุดในการหา Keyword คือ

    • ลองพิมพ์ในช่อง Search ของกูเกิ้ล สมมุติเราพิมพ์แค่คำว่า กะเพรา ก็ให้ดูต่อว่า Google แสดงผล Keyword แบบไหนต่อท้ายบ้าง เช่น

      ตัวอย่างช่อง Search ในกูเกิ้ล เมื่อพิมพ์แค่คำว่ากะเพรา

    • และอาจใช้คำแนะนำที่อยู่ด้านล่างของผลการค้นหา "People also search for"


ส่วนของ People also search for สำหรับใช้หาไอเดียทำ Keyword Local SEO

การสร้าง Content ที่ออกแบบมาเพื่อทำตลาดในพื้นที่


  • หากคุณมีเว็บไซต์ ก็จะปรับให้เว็บไซต์เป็นเสมือนศูนย์กลางของท้องที่นั้น ๆ

    • โดยการใส่ชื่อธุรกิจ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ บนเว็บไซต์ โดยเฉพาะส่วน Footer หรือขอบล่างของเว็บไซต์

    • ฝังโค้ดให้แสดงเป็น Google Map ที่หน้า "Contact" หรือ "ติดต่อเรา"

  • ไอเดียสำคับการสร้าง Content ที่อิงกับพื้นที่

    • เขียนบทความเกี่ยวกับงานเทศกาล หรืองาน Event ที่บริษัทคุณไปออกงาน

    • เขียนบทความเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชุมชนที่ธุรกิจของคุณตั้งอยู่

    • นำคำชื่นชมหรือตัวอย่างกรณีศึกษาของลูกค้าในพื้นที่มาบอกเล่าบนพื้นที่เว็บ


การสร้างความน่าเชื่อถือผ่าน การรีวิวออนไลน์และมีรายชื่อในเว็บไดเร็คทอรี่ (Directory Website)


  • พลังของการรีวิวบนโลกออนไลน์

    • Google ให้ความสำคัญกับประสบการณ์จริงของ User เพราะประสบการณ์ที่ผู้บริโภคได้รับจริง ๆ เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อผู้อื่น และแสดงถึงความโปร่งใสของเว็บหรือธุรกิจนั้น ๆ อีกด้วย เช่น การแสดง Testimonial (คำชมหรือคำขอบคุณจากลูกค้า) และการรีวิวธุรกิจบน Google

    • เว็บไซต์รีวิวอื่น ๆ ก็มีผลกับธุรกิจของคุณเช่นกัน เช่น หากเป็นร้านอาหาร หรือ คาเฟ่ การได้รับรีวิวจากเว็บไซต์รีวิวอย่าง Wongnai ก็มีผลอย่างมากในการทำ Local SEO เพราะเป็นประสบการณ์ที่คนได้รับจริง และมาจากเว็บไซต์รีวิวที่น่าเชื่อถือ

  • วิธีเพิ่มรีวิวที่ง่ายสุด

    • ขอให้ลูกค้ารีวิวธุรกิจ โดยอาจมีของตอบแทนเล็ก ๆ น้อยๆ ให้

    • อาจสร้าง QR Code ให้ลูกค้า Scan แล้วไปที่หน้ารีวิวโดยตรง

  • การสร้างชื่อเสียงและการมีปฎิสัมพันธ์

    • การตอบรีวิวอย่างจริงใจ ไม่ว่าจะเป็นรีวิวแง่ดีหรือแง่ลบอย่างเป็นมืออาชีพ ภายในช่วงเวลาที่เหมาะสมก็ถือเป็นสิ่งที่สำคัญ

  • การมีชื่ออยู่ในเว็บไดเร็คทอรี่ (Directory Website)

    • Directory Website คือเว็บไซต์ที่รวบรวมเนื้อหาประเภทใดประเภทหนึ่งไว้บนเว็บไซต์ พร้อมลิงก์เพื่อไปยังเว็บปลายทาง ตัวอย่างเช่น

      • ปัจจุบันจะมีบางเว็บไซต์ที่ดูคล้าย ๆ เว็บสมัครงานทั่วไป แต่เราจะสมัครงานไม่ได้โดยตรง เพราะเว็บนั้นจะทำหน้าที่เว็บรวบรวมงานจากเว็บไซต์ของบริษัทอื่น ๆ มารวมไว้เท่านั้น ซึ่งการคลิกจะพา User ไปที่หน้าเว็บประกาศหางานบนเว็บไซต์บริษัทนั้น ๆ อีกที ตัวอย่างเช่น Indeed หรือ หน้า Jobs ของ Linkedin

    • สำหรับธุรกิจท้องถิ่น การมีรายชื่อในเว็บไซต์อย่าง Yellow Pages ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับการทำ Local SEO

    • อีกสิ่งสำคัญสำหรับการทำ Local SEO คือ ความสม่ำเสมอของ NAP (Name, Address, Phone Number) หรือการลง ชื่อธุรกิจ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ในทุก ๆ ที่ที่ลงเกี่ยวกับธุรกิจ


การทำ Local SEO นอกเหนือจากบน Google หรือ Search Engine


  • การทำ Local SEO สำหรับธุรกิจบนโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook

    • การขอให้ลูกค้าช่วย check-in ขณะมาใช้บริการที่ร้าน

    • ติด Location พิกัดร้านเสมอทุกครั้งที่โพสต์

    • แชร์รีวิวแง่ดีจาก Google บน เพจ Facebook

  • การทำ Local SEO ผ่าน LINE

    • ใช้ LINE Official Account แชร์โปรโมชันและอัปเดตต่าง ๆ ให้กับลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่



การทำ Local SEO แบบ Technical


  • การออกแบบเว็บไซต์โดยเน้น Mobile-First หรือเน้นทำงานได้ดีบนอุปกรณ์พกพา

    • เพราะในในยุคปัจจุบัน ทุกคนใช้สมาร์ตโฟนขณะออกนอกบ้าน และการหาร้านค้า ร้านอาหาร หรือ คาเฟ่ ก็นิยมทำผ่านสมาร์ตโฟน ซึ่ง Google ให้ความสำคัญกับการที่หน้าเว็บออกแบบมารองรับอุปกรณ์พกพาและมี UX UI ที่คิดมาเพื่ออุปกณ์พกพาเป็นอย่างมาก เพราะเป็นประโยชน์ต่อพฤติกรรมของ User ในปัจจุบัน

  • การทำ Local Schema Markup

    • ในปัจจุบันการทำ SEO จะนิยมทำ Schema Markup โดยใช้โค้ด JSON (JavaScript Object Notation) ที่บรรจุข้อมูลสำคัญของเว็บไซต์หรือของตัวธุรกิจ เช่น วันเวลาทำการ คำอธิบายร้าน ที่อยู่ เบอร๋ติดต่อ ซึ่งในปัจจุบันแพลตฟอร์ม CMS ส่วนใหญ่ อย่าง WordPress, Wix และ Magento รองรับการทำ Schema Markup ด้วยตนเองได้ แต่หากไม่มั่นใจจริง ๆ ก็อาจติดต่อ คนดูแลเว็บไซต์ให้ใส่โค้ดนี้ลงบนเว็บไซต์ได้

    • Schema Markup นิยมใส่ที่ <head> ซึ่งจะไม่ปรากฏที่ใดบนเว็บไซต์ เพราะข้อมูลส่วนใหญ่ที่อยู่บริเวณ <head> จะเป็นข้อมูลที่เว็บไซต์ใช้สื่อสารกับระบบต่าง ๆ เช่น Search Engine

    • สามารถตรวจสอบ Schema Markup (การติดตั้งบนเว็บ, ความถูกต้องของโค้ด) ได้ที่ Schema.org


  • ตัวอย่าง Schema Markup (ข้อความที่ไฮไลท์คือข้อมูลที่เราต้องใส่ ในที่นี้สมมุติเป็นร้านขนมไทย ชื่อ ชมจันทร์)

    <script type="application/ld+json">

    {

      "@context": "https://schema.org",

      "@type": "LocalBusiness",

      "name": "ขนมไทยชมจันทร์",

      "image": "ใส่ URL รูปโลโก้ร้านที่นี่",

      "@id": "https://www.chomchanthaidessert.com/#organization",

      "url": "https://www.chonchanthaidessert.com/",

      "telephone": "ใส่เบอร์โทร +6621234567",

      "address": {

        "@type": "PostalAddress",

        "streetAddress": "ใส่ที่อยู่ เลขที่ ถนน 123 ซอยจันทรา",

        "addressLocality": "ที่อยู่ แขวง เขต จันทรเกษม จตุจักร",

        "addressRegion": "จังหวัด กรุงเทพ",

        "postalCode": "ใส่รหัส ปณ สมมุติให้เป็นเขตจตุจักร 10900",

        "addressCountry": "TH"

      },

      "geo": {

        "@type": "GeoCoordinates",

        "latitude": ใส่เส้นละติจูดที่ตั้งร้าน หาได้จากการคลิกขวาบน Google Maps เช่น 13.8175,

        "longitude": ใส่เส้นลองตะจูดที่ตั้งร้าน 100.5805

      },

      "openingHoursSpecification": [

        {

          "@type": "OpeningHoursSpecification",

          "dayOfWeek": [

            "Monday",

            "Tuesday",

            "Wednesday",

            "Thursday",

            "Friday"

          ],

          "opens": "09:00",

          "closes": "18:00"

        },

        {

          "@type": "OpeningHoursSpecification",

          "dayOfWeek": [

            "Saturday"

          ],

          "opens": "10:00",

          "closes": "16:00"

        }

      ],

      "priceRange": "$$",

      "hasMap": "ใส่ URL ที่ได้จากการคลิกที่ตั้งร้านบน Google Map https://www.google.com/maps/place/Chom+Chan+Thai+Dessert/@13.8175,100.5805z/",

      "servesCuisine": "ประเภทสินค้า Thai Dessert",

      "description": "ใส่คำอธิบายร้านสั้น ๆ ไม่เกิน 160 ตัวอักษร ร้านขนมไทยชมจันทร์เป็นร้านขนมไทยดั้งเดิม แต่ปรับปรุงสูตรให้เข้ากับวิถีชีวิตยุคใหม่ ลดความหวานลง และใช้วัตถุดิบ Organic ทำสดใหม่ทุกวัน",

      "sameAs": [

        "https://www.facebook.com/chomchanthaidessert",

        "https://www.instagram.com/chomchanthaidessert",

        "https://www.linkedin.com/company/comchanthaidesset"

      ],

      "aggregateRating": {

        "@type": "AggregateRating",

        "ratingValue": "ใส่คะแนนรีวิวเฉลี่ย 4.8",

        "reviewCount": "ใส่จำนวนรีวิว 125"

      }

    }

    </script>

Checklist ว่าคุณทำ Local SEO แล้ว


  • ให้ลองไล่ทีละข้อว่ามีข้อไหนบ้างที่คุณทำไปแล้ว

    • [ ] เคลมและปรับแต่งหน้า Google Business Profile

    • [ ] ใช้ Keyword ที่มีชื่อพื้นที่ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ

    • [ ] ใส่ที่อยู่ เบอร์ติดต่อ และ แผนที่ลงในทุกช่องทางเช่น เว็บ โซเชียลมีเดียของร้าน

    • [ ] ขอให้ลูกค้าช่วยรีวิว พร้อมตอบรีวิวลงบน Google หรือ Wongnai

    • [ ] ตรวจสอบให้มั่นใจว่า ทุกพื้นที่บนโลกออนไลน์ มีชื่อร้าน ที่อยู่ และเบอร์โทรเสมอ

    • [ ] หากมีเว็บไซต์ คุณได้ปรับแต่งให้เหมาะกับการใช้งานบนอุปกรณ์พกพา เช่น สมาร์ตโฟน แท็บเลต เรียบร้อยแล้ว



แม้ผังเมืองในไทย โดยเฉพาะกรุงเทพและปริมณฑลจะมีปัญหาเรื่องการออกแบบ ทำให้ทำเลดี ๆ มีราคาสูงเกินสำหรับธุรกิจเล็ก ๆ ทำเลรอง ๆ ก็มาพร้อมปัญหาเรื่องการเดินทาง แต่ถ้าคุณมีความตั้งใจขายสินค้าและบริการ และอยากให้ลูกค้าได้เข้าถึง ได้ลองใช้ การทำ Local SEO ก็ถือเป็นโอกาสอันดีในยุคดิจิทัล ที่ธุรกิจของคุณจะปรากฏในสายตาลูกค้าที่กำลังค้นหาคุณอยู่ได้


หัวใจสำคัญของการทำ Local SEO คือการทำให้ข้อมูลธุรกิจของคุณถูกต้องและครบถ้วนบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ โดยใช้ Google Business Profile (GBP) เป็นศูนย์กลาง พร้อมการใช้ Keyword ที่มีชื่อพื้นที่ และผสานเข้ากับรีวิวออนไลน์ที่น่าเชื่อถือ และการมีรายชื่อใน Directory Website และสิ่งสำคัญ NAP (Name ชื่อร้าน, Address ที่อยู่ร้าน, Phone Number เบอร์ติดต่อ) ต้องมีในทุกช่องทาง เพราะนี่คือสิ่งที่ Google ใช้ยืนยันตัวตนและความน่าเชื่อถือของธุรกิจคุณ


ในโลกที่ผู้คนค้นหา "ร้านกาแฟใกล้ฉัน" หรือ "ร้านซ่อมแอร์ในปากน้ำ" ผ่านสมาร์ตโฟน การลงทุนกับ Local SEO จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและนำไปสู่การปิดการขายได้อย่างแท้จริง

Comments


bottom of page
# This file controls how LLMs and other generative AI models
# are permitted to use the content on seo2blue.com.

# --- General Directives ---

# Disallow all known general-purpose LLM trainers from using content for training.
# This is often done to protect proprietary content or prevent misuse.
# User-Agent: *
# Disallow: /

# --- Specific LLM/AI Bot Directives ---

# 1. Example: Allow a specific AI agent (like a citation bot) to crawl, 
# but disallow it from using the content for training.
# User-Agent: CitationBot-AI
# Allow: /
# Disallow-Model-Training: /

# 2. Example: Explicitly allow a known, benevolent AI tool 
# (e.g., a tool for accessibility or summarization) to access and use all content.
# User-Agent: GoodAI-Summarizer
# Allow: /
# Allow-Model-Training: /

# 3. Example: Disallow all LLM training *only* on the 'Contact' page, 
# to prevent private details (if they were present) from being scraped.
# User-Agent: *
# Disallow-Model-Training: /contact

# --- General Model Training Directive ---

# A broad directive to apply to all crawlers that support the 'Model-Training' standard.
# This line says: Do NOT use any content on the site for model training.
User-Agent: *
Disallow-Model-Training: /

# This directive could be used if you ONLY want to block specific directories.
# User-Agent: *
# Disallow-Model-Training: /private-research/
# Disallow-Model-Training: /beta-content/